1. กลับขึ้นด้านบน
  2. บทความพิเศษ โปรแกรมตัวอย่าง
  3. 5 คาเฟ่แนะนำรอบปราสาทฮิเมจิ ดื่มชาเขียวมัทฉะแท้ๆ ในอาคารย้อนยุค
2023.01.18.พุธ การท่องเที่ยว

5 คาเฟ่แนะนำรอบปราสาทฮิเมจิ ดื่มชาเขียวมัทฉะแท้ๆ ในอาคารย้อนยุค

5 คาเฟ่แนะนำรอบปราสาทฮิเมจิ ดื่มชาเขียวมัทฉะแท้ๆ ในอาคารย้อนยุค

เมื่อพูดถึงฮิเมจิ ต้องนึกถึงปราสาทฮิเมจิที่เป็นมรดกโลกชื่อดัง ในละแวกนี้มีคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ บทความนี้ขอแนะนำ 5 คาเฟ่ที่ต้องแวะหลังเที่ยวชมปราสาทฮิเมจิ ตั้งแต่คาเฟ่ที่ได้ลิ้มรสเมนูขึ้นชื่อของฮิเมจิ คาเฟ่สไตล์บ้านโบราณที่ีมีเมนูมื้อกลางวันสุดฮิต และร้านชาที่ได้ดื่มชาเขียวมัทฉะสุดพรีเมี่ยมแบบสบายๆ

จุดเด่นของคาเฟ่รอบปราสาทฮิเมจิ

รอบๆ ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ซึ่งเคยรุ่งเรืองในฐานะเมืองรอบปราสาทมาตั้งแต่อดีต เป็นละแวกที่มีการผสมผสานกันระหว่างประเพณีดั้งเดิมกับวัฒนธรรมใหม่เข้าด้วยกัน ที่จะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในฮิเมจิตามโชเท็นไก (ย่านการค้า) และตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไป

จุดเด่นของคาเฟ่รอบปราสาทฮิเมจิมีลักษณะที่ผสมผสานระหว่างร้านสไตล์เก่ากับสไตล์ใหม่ ตั้งแต่คาเฟ่เก่าแก่ราว 50 ปี จนถึงคาเฟ่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดในปี 2022

บทความนี้ ขอแนะนำ 5 คาเฟ่รอบๆ ปราสาทฮิเมจิ ตั้งแต่คาเฟ่ที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารขึ้นชื่อของฮิเมจิและชาเขียวมัทฉะแบบสบายๆ ไปจนถึงคาเฟ่สไตล์บ้านโบราณที่มีเมนูมื้อกลางวันและขนมหวานยอดฮิต

บทความนี้ได้รวบรวมคาเฟ่ที่สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศย้อนยุคไว้แล้ว ดังนั้น สำหรับท่านที่ชื่นชอบสไตล์ย้อนยุค จะได้พบร้านชื่นชอบแน่นอน

HAMAMOTO COFFEE คาเฟ่ที่สามารถลิ้มรสอัลมอนด์โทสต์ที่มีขึ้นชื่อของฮิเมจิ

มิยูกิโดริโชเท็นไก (Miyuki-Dori Shopping Street) เป็นย่านการค้าที่เชื่อมระหว่างสถานีฮิเมจิกับปราสาทฮิเมจิ ที่นี่เป็นย่านการค้าเก่าแก่กว่า 100 ปี มีร้านค้ามากมายซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในท้องถิ่นมายาวนาน

หนึ่งในนั้นคือ HAMAMOTO COFFEE (ฮามาโมโตะ คอฟฟี่) เปิดให้บริการเมื่อปี 1975 เป็นร้านยอดฮิตที่สามารถเพลิดเพลินกับกาแฟที่ชงแบบไซฟอน (Siphon Coffee) ได้

หากต้องการชมคุณฮามาโมโตะเจ้าของร้านชงกาแฟอย่างชำนาญแบบใกล้ชิด ขอแนะนำที่นั่งเคาน์เตอร์

ร้านนี้ให้บริการกาแฟเบลนด์ (การนำเมล็ดกาแฟ 2 พันธุ์ขึ้นไปมาผสมเข้าด้วยกัน) ตามฤดูกาลในช่วงเวลาจำกัดทุกๆ 2 เดือน

เดิมทีกาแฟเป็นพืชเขตร้อน รสชาติจึงไม่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล แต่ด้วยแนวคิดที่ว่า “เพราะญี่ปุ่นมี 4 ฤดู จึงอยากให้ลูกค้าได้ดื่มกาแฟเบลนด์ที่ทำให้รู้สึกถึงฤดูกาล” เจ้าของจึงคิดค้นกาแฟเบลนด์ต้นตำรับ.ของทางร้านที่มีรสเปรี้ยวสดชื่นในฤดูร้อน และรสชาติที่เข้มข้นให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายในหน้าหนาว

สำหรับเมนูที่รับประทานคู่กัน ขอแนะนำอัลมอนด์โทสต์ (Almond toast ขนมปังปิ้งเนยอัลมอนด์) ที่ทาเนยอัลมอนด์แบบจัดเต็ม ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของฮิเมจิ

กลิ่นหอมและความหวานจาง ๆ จากอัลมอนด์ที่ใส่แบบจัดเต็มนั้นเข้ากับกาแฟรสเลิศจริงๆ

Wacca คาเฟ่สไตล์บ้านโบราณที่มีเมนูมื้อกลางแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมยอดฮิต

หากต้องการเพลิดเพลินกับเมนูมื้อกลางแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ขอแนะนำ Wacca (วักกะ) คาเฟ่ซึ่งอยู่ที่มิยูกิโดริโชเท็นไก

มีชุดอาหารกลางวันที่ดีต่อสุขภาพมากๆ ประกอบด้วย ยาไซโนะเซโระมูชิ (*) อาหารจานหลัก ข้าว ซุปมิโสะ และของหวาน ยาไซโนะเซโระมูชิจะใช้ผักตามฤดูกาล ส่วนข้าวสามารถเลือกข้าวผสมธัญพืชแทนข้าวขาวได้

* 1:ยาไซโนะเซโระมูชิ…เมนูอาหารที่นำผักนึ่งในเซโระซึ่งเป็นภาชนะนึ่งอาหารที่ทำจากไม้ไผ่สานหรือไม้ (มุมบนซ้ายของรูป)

สามารถเลือกเครื่องดื่มที่มาพร้อมชุดอาหารได้ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ ซึ่งขอแนะนำให้เลือกกาแฟคั่วเองของทางร้าน

หากต้องการลิ้มมรสเค้กโฮมเมด ควรมาหลังเวลา 14:00 น. นอกจากชีสเค้กและการ์โตว์ช็อกโกลา (มาจากภาษาฝรั่งเศส Gâteau au chocolat เป็นเค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มของญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นเมนูเด่นของทางร้าน ยังที่คาเฟ่มีบุฟเฟต์เค้กจำกัดเวลาด้วย

ภายในร้านตกแต่งอย่างมีรสนิยมด้วยเครื่องเรือนโบราณและเครื่องปั้นดินเผาที่เจ้าของร้านเลือกสรรเอง ร้านมี 3 ชั้น โดยชั้น 2 มีโซนที่นั่งเสื่อทาทามิ ให้ความรู้สึกเหมือนได้มาที่บ้านญี่ปุ่นโบราณ

ชั้นบนสุดเป็นโซนที่นั่งสำหรับผู้ที่มาคนเดียว ที่นั่งทั้งหมดเป็นที่นั่งเดี่ยว ดังนั้นหากมาเที่ยวคนเดียว เชิญใช้บริการดู

Kissa fukunaga คาเฟ่ที่เปิดเมื่อปี 2022 มีครีมโซดาถ่ายรูปสวยที่โด่งดัง

Kissa fukunaga (คิซซะ ฟุคุนากะ) คาเฟ่ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนเมษายน 2022 เป็นร้านที่นำคาเฟ่เก่าของญี่ปุ่นมาปรับปรุงให้ทันสมัย

ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร มีป้ายที่มีรูปกระต่ายเล็กๆ น่ารักเป็นสัญลักษณ์ บรรยากาศเหมือนร้านลับ ซึ่งเมื่อได้มาต้องตื่นเต้นแน่นอน

ภายในร้านตกแต่งด้วยคอลเลกชั่นแผ่นเสียงเพลงแจ๊สที่เจ้าของสะสมไว้ สามารถขอให้เปิดเพลงจากแผ่นเสียงได้นะ

ที่ร้านแห่งนี้มีเมนูประจําคาเฟ่ญี่ปุ่นในสมัยก่อนให้ลิ้มลองอย่างน้ำผลไม้รวมและพุดดิ้ง โดยเฉพาะครีมโซดาเป็นหนึ่งในเมนูเด่นของร้าน มีทั้งหมด 5 ชนิด 5 สี แต่ละรสชาติจะมีการตกแต่งท็อปปิ้งต่างกัน ซึง เป็นกล่าวถึงกันว่า ถ่ายรูปออกมาสวยมาก

นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารที่หลากหลาย เช่น แกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่เคี่ยวนานกว่า 3 วัน และสปาเก็ตตี้ที่ทำจากเส้นพาสต้าสด ทุกเมนูล้วนปรุงด้วยรสชาติดั้งเดิม อย่างแซนวิชไข่ซึ่งเป็นแซนวิชไส้ดาชิมากิทามาโกะ (*2) ชิ้นหนานุ่ม สามารถเอร็ดอร่อยกับทามาโกะยากิผสมน้ำซุปดาชิสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งเป็นรสชาติเฉพาะของภูมิภาคคันไซ

พาร์เฟต์ที่จําหน่ายจำกัดวันละ 10 ชิ้น ซึ่งรังสรรค์ขึ้นตามภาพลักษณ์ของแต่ละฤดู ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลมากมายเป็นส่วนผสม เป็นความอร่อยแบบจัดเต็มจริงๆ

* 2: ดาชิมากิทามาโกะ…ไข่ม้วนนุ่มๆ ที่ทำจากไข่กับน้ำซุปดาชิ

Matcha Teahouse ZONGAI ร้านจําหน่ายชาญี่ปุ่นเก่าแก่ เพลิดเพลินมัทฉะสุดพรีเมี่ยมคู่กับวากาชิ

KOBAYASHI Tea Shop (โคบายาชิ) เป็นร้านจําหน่ายชาญี่ปุ่นชั้นนำของฮิเมจิ เปิดกิจการเมื่อปี 1875 ที่นี่จําหน่ายชาเขียวมัทฉะคุณภาพสูงซึ่งใช้ในห้องพิธีชงชาภายในโคโคะเอ็น (Koko-en Garden) สวนญี่ปุ่นในปราสาทฮิเมจิ

และสามารถลิ้มรสชาเขียวมัทฉะแท้ๆ ได้ที่ Matcha Teahouse ZONGAI (ร้านชาเขียวมัทฉะซนไก) คาเฟ่ซึ่งบริหารโดย KOBAYASHI Tea Shop

ในพื้นที่คาเฟ่นี้สามารถชมพนักงานของร้านชงชาเขียวมัทฉะตรงหน้า และเพลิดเพลินกับชุดชาเขียวมัทฉะคู่กับวากาชิ (ขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) ได้ ธรรมเนียมของพิธีชงชาเต็มรูปแบบนั้นซับซ้อน แต่ที่คาเฟ่แห่งนี้สามารถนั่งบนเก้าอี้และเพลิดเพลินกับบรรยากาศของพิธีชงชาได้

จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครอย่างหนึ่งของคาเฟ่นี้คือสามารถเลือกถ้วยชาที่ชอบจากถ้วยชามากมายเพื่อใช้ดื่มชาได้ ถ้วยชามีรูปร่าง สี และวัสดุต่างกันไป แต่ละชิ้นล้วนเป็นของล้ำค่าที่มีชิ้นเดียวในโลก

ทางร้านนำวากาชิจากร้านค้าหลายแห่งตามแต่ละฤดูกาลมาจําหน่าย บางรายการเป็นวากาชิจากร้านที่จัดพิธีชงชาซึ่งไม่ได้วางจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป ธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติของชาเขียวมัทฉะมากยิ่งขึ้น คือต้องรับประทานวากาชิให้เสร็จก่อนดื่มชาเขียวมัทฉะ

ที่ KOBAYASHI Tea Shop ยังจําหน่ายชาญี่ปุ่นหลากหลายชนิด เหมาะที่จะสามารถซื้อไปเป็นของฝาก

PARLAND COFFEE ที่สามารถผ่อนคลายด้วยกาแฟคัดสรรพิเศษและสวนสวย

เมื่อเดินจากปราสาทฮิเมจิไปทางเหนือราว 20 นาที จะพบ PARLAND COFFEE (พาร์แลนด์คอฟฟี่) ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบ

คาเฟ่สร้างขึ้นบนพื้นที่บ้านเดิมของคุณย่าของเจ้าของร้าน จากคาเฟ่แห่งนี้สามารถมองเห็นเท็นชุคาคุ (ป้อมปราสาท สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในพื้นที่ของปราสาท เป็นสัญลักษณ์ของปราสาท) ของปราสาทฮิเมจิได้

ในสวนของคาเฟ่ปลูกต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ซึ่งเป็นพืชพรรณไม้ต่างๆ ของฮิเมจิ ทำให้สัมผัสได้ถึงธรรมชาติของฮิเมจิและการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล

เมล็ดกาแฟที่คัดสรรโดยเจ้าของร้านที่ใส่ใจในธรรมชาติล้วนเป็นกาแฟคัดสรรพิเศษ นอกจากรสชาติและคุณภาพแล้ว ทางร้านยังเน้นเมล็ดกาแฟที่ผลิตโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นที่ปลูกเมล็ดกาแฟและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของพนักงาน

จุดเด่นอีกอย่างของคาเฟ่นี้คือการชงกาแฟแบบเฟรนช์เพรส (French Press) เนื่องจากเป็นการสกัดกาแฟโดยไม่ผ่านการกรอง จึงสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติดั้งเดิมอย่างความขมและความเปรี้ยวของเมล็ดกาแฟได้โดยตรง

เมนูที่เหมาะรับประทานคู่กับกาแฟมีทั้งขนมหวานอย่างชีสเค้กแบบอบและกาโตว์ช็อกโกลา รวมทั้งแซนด์วิชเบเกิล (Bagel เป็นขนมปังรูปวงแหวนคล้ายโดนัท เนื้อสัมผัสค่อนข้างแน่น ผิวนอกเนียนกรอบ ไม่ฟูนุ่มเหมือนอย่างโดนัท) ที่เหมาะสำหรับมื้อกลางวันแบบเบาๆ ทุกเมนูรังสรรค์ขึ้นด้วยฝีมือของเจ้าของร้านซึ่งเป็นอดีตเชฟ

คาเฟ่ใกล้ปราสาทฮิเมจิที่สามารถเพลิดเพลินกับอาคารสไตล์ย้อนยุค และเมนูรสเลิศที่น่าอวดลงอินสตาแกรม

คาเฟ่ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศย้อนยุคได้

ฮิเมจิเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น และความมีชีวิตชีวาของผู้คนท้องถิ่นที่รักบ้านเกิด

แวะมาเดินเล่นรอบฮิเมจิ เที่ยวชมปราสาทฮิเมจิ และใช้เวลาเพลิดเพลินที่คาเฟ่ในละแวกปราสาทกัน

 

*เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ

ดูบทความพิเศษและโปรแกรมตัวอย่างอีก

บทความยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง