1. กลับขึ้นด้านบน
  2. บทความพิเศษ โปรแกรมตัวอย่าง
  3. 5 อาหารท้องถิ่นรสเลิศแนะนำและร้านอาหารชื่อดังในฮิเมจิ มีตั้งแต่เนื้อวากิวไปจนถึงอาหารท้องถิ่น
2022.12.15.พฤหัส อาหารอร่อย

5 อาหารท้องถิ่นรสเลิศแนะนำและร้านอาหารชื่อดังในฮิเมจิ มีตั้งแต่เนื้อวากิวไปจนถึงอาหารท้องถิ่น

5 อาหารท้องถิ่นรสเลิศแนะนำและร้านอาหารชื่อดังในฮิเมจิ มีตั้งแต่เนื้อวากิวไปจนถึงอาหารท้องถิ่น

เมืองฮิเมจิซึ่งเดินทางจากโอซาก้าและโกเบมาง่าย เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสที่สามารถลิ้มลองได้ที่นี่เท่านั้น ตั้งแต่เนื้อฮิเมจิวากิวไปจนถึงฮิเมจิโอเด้ง บทความนี้ขอแนะนำอาหารท้องถิ่นรสเลิศ 5 ชนิดที่ควรลองเมื่อมาฮิเมจิ รวมถึงร้านอาหารชื่อดังที่สามารถรับประทานได้

“อาหารท้องถิ่นรสเลิศ” ของฮิเมจิ ขุมสมบัติแห่งวัตถุดิบจากทะเลและภูเขา

เมืองฮิเมจิ (Himeji) ในจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่เชื่อมระหว่างโอซาก้า, โกเบ กับภูมิภาคชูโกคุอย่างฮิโรชิม่า และภูมิภาคซันอินอย่างทตโตริและชิมาเนะมาตั้งแต่อดีต ทำให้ที่นี่มีวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่หลากหลาย
ฮิเมจิล้อมรอบด้วยภูเขาทางทิศเหนือและทะเลในเซโตะทางทิศใต้ จึงมีวัตถุดิบจากทั้งทะเลและภูเขาที่สดใหม่และอร่อยมากมาย ด้วยเหตุนี้ ฮิเมจิจึงมีวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่หลากหลายขึ้น ตั้งแต่อาหารระดับหรูหราไปจนถึงอาหารรสเลิศยอดฮิตแบบบ้านๆ
บทความนี้ขอแนะนำอาหารรสเลิศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของฮิเมจิ 5 อย่างพร้อมกับร้านอาหารชื่อดังยอดฮิต

1. ขนมปังปิ้งอัลมอนด์ที่ Cafe de Monsieur (คาเฟ่เดอมองซิเออร์)

ขนมปังปิ้งอัลมอนด์

ญี่ปุ่นมีร้านกาแฟและคาเฟ่หลายแห่งมี “โปรโมชั่นอาหารเช้าสุดคุ้ม” ในช่วงเช้า เป็นบริการที่สามารถรับประทานเครื่องดื่ม ขนมปังปิ้ง เมนูไข่ และอื่นๆ ได้ในราคาที่ถูกกว่าปกติ
ฮิเมจิมีคาเฟ่มากมายที่สามารถเพลิดเพลินกับโปรโมชั่นอาหารเช้าสุดคุ้ม ขนมปังปิ้งอัลมอนด์ซึ่งทาเนยอัลมอนด์บนขนมปังแผ่นแบบจัดเต็ม เป็นหนึ่งในเมนูประจําในชุดโปรโมชั่นอาหารเช้าสุดคุ้ม
มาเพลิดเพลินกับโปรโมชั่นอาหารเช้าสุดคุ้มยอดฮิตที่ Cafe de Monsieur ร้านแรกในญี่ปุ่นที่เป็นจุดเริ่มต้นการทำเนยอัลมอนด์

มาเพลิดเพลินกับโปรโมชั่นอาหารเช้าสุดคุ้มยอดฮิตที่ Cafe de Monsieur ร้านแรกในญี่ปุ่นที่เป็นจุดเริ่มต้นการทำเนยอัลมอนด์

Cafe de Monsieur เปิดกิจการเมื่อปี 1987 ว่ากันว่า เป็นร้านแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ทำเนยอัลมอนด์ มี 3 สาขาในเมืองฮิเมจิ และสาขาฮิเมจิที่ผู้เขียนไปครั้งนี้ขับรถจากสถานี JR ฮิเมจิ (JR Himeji) มาแค่ 5 นาที

ภายในร้านจะเปิดเพลงคลาสสิกคลอทำให้บรรยากาศดูสงบสบาย ร้านเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ ดังนั้นผู้ที่ไม่ชอบสูบบุหรี่สามารถสบายใจได้

โปรโมชั่นอาหารเช้าสุดคุ้มให้บริการในเวลา 7:00 – 11:00 น. หากสั่งกาแฟ (500 เยน) จะเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังปิ้งอัลมอนด์ เมนูไข่ (ออมเล็ตหรือไข่ต้ม) และสลัด สามารถสั่งขนมปังปิ้งอัลมอนด์ได้ตลอดเวลา

เนยอัลมอนด์ของ Cafe de Monsieur ใส่อัลมอนด์พุดเดิ้ลและอัลมอนด์หั่นเต๋าแบบจัดเต็ม ความหวานและกลิ่นหอมที่อ่อนๆ เป็นความอร่อยที่ชวนให้ติดใจ สามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วย
ในโปรโมชั่นอาหารเช้าสุดคุ้มของ Cafe de Monsieur นอกจากขนมปังปิ้งอัลมอนด์แล้ว ยังมีอีก 7 เมนูให้เลือก เช่น แซนวิชและฮอทดอก

2. เพลิดเพลินกับเนื้อวัวฮิเมจิวากิวชั้นเลิศที่ Yakiniku Azumi (ยากินิคุ อาซูมิ)

เนื้อวัวฮิเมจิวากิว

เนื้อวัวฮิเมจิวากิว (Himeji Wagyu Beef) เป็นแบรนด์ที่มอบให้กับเนื้อวัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นขนสีดำที่เลี้ยงในพื้นที่นิชิฮาริมะใกล้กับฮิเมจิซึ่งผ่านข้อกำหนดที่เข้มงวดเท่านั้น
เนื้อวัวฮิเมจิวากิวซึ่งเลี้ยงอย่างดีในสภาพอากาศอบอุ่นและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เนื้อจะนุ่ม มีรสอูมามิและความหวานเข้มข้น มีลักษณะไขมันละเอียดที่เรียกกันว่า ลายหินอ่อน แต่รับประทานแล้วไม่เลี่ยน

Yakiniku Azumi ร้านขายเนื้อเก่าแก่ เปิดมาราว 50 ปีแล้ว

Picture courtesy of Yakiniku Azumi

เนื้อวัวฮิเมจิวากิวไม่ได้มีการจําหน่ายแพร่หลายเนื่องจากข้อกำหนดการรับรองที่เข้มงวด Yakiniku Azumi เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่สามารถลิ้มรสอาหารรสเลิศที่ล้ำค่านี้ได้
ร้านจําหน่ายเนื้ออาซากะ (Asaka) ร้านเก่าแก่ในฮิเมจิซึ่งมีประวัติยาวนานราว 50 ปี ซึ่งเปิดร้านยากินิกุ (เนื้อย่าง) เมื่อปี 2015 โดยชั้น 1 เป็นร้านจําหน่ายเนื้อสดๆ ที่คัดมาอย่างดี ส่วนชั้น 2 เป็นร้านยากินิกุ

ร้านยากินิกุที่ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของการเป็นร้านจําหน่ายเนื้อ ให้บริการเฉพาะเนื้อวัวที่จัดหาจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้เท่านั้น ดังนั้น รสชาติและคุณภาพของเนื้อวัวที่นี่จึงยอดเยี่ยมสุดๆ
เนื้อส่วนใหญ่เป็นเนื้อวังฮิเมจิวากิว แต่เนื้อชนิดอื่นก็มีให้บริการขึ้นอยู่กับแต่ละวัน ดังนั้นหากสนใจ ลองตรวจสอบก่อนล่วงหน้าได้
เนื้อฮิเระ (เนื้อสันในวัว) คัดเกรดพรีเมื่ยมแบบสไลด์ 4 ชิ้น (9,800 เยน) เป็นเนื้อชาโตบริยองค์ (chateaubriand) เนื้อฮิเระตรงกลางที่มีคุณภาพสูงสุด ซึ่งเป็นเมนูแนะนำประจำวันของผู้จัดการ

อย่าลืมลองเนื้อกับซอสพิเศษของที่นี่ซึ่งเป็นสูตรที่ตกทอดมาจากร้านยากินิกุ (ปัจจุบันปิดให้บริการอยู่ ณ ธันวาคม 2022) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่นมายาวนาน ซอสพิเศษรสอ่อนๆ ซึ่งปรุงรสได้อย่างสมบูรณ์แบบช่วยดึงรสชาติของเนื้อออกมา

3. ถ้าอยากรับประทานฮิเมจิโอเด้ง ต้องไปที่ “ร้านฮิเมจิโอเด้งและคุชิคัตสึ”

ฮิเมจิโอเด้ง

โอเด้งที่เคี่ยวส่วนผสมต่างๆ อย่างหัวไชเท้าและบุกในน้ำซุปดาชิ เป็นอาหารปรุงเองรับประทานที่บ้านกันทั่วไปในญี่ปุ่น ปกติที่จะรับประทานกับมัสตาร์ด แต่ในฮิเมจิจะรับประทานโดยราดซอสโชยุขิงสด
ว่ากันว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะตั้งแต่อดีตในพื้นที่ฮิเมจิสามารถผลิตโชยุและขิงได้มาก เนื่องจากวิธีการรับประทานที่ไม่เหมือนใครนี้ โอเด้งที่รับประทานได้ในฮิเมจิจึงได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าว่า “ฮิเมจิโอเด้ง

“ร้านฮิเมจิโอเด้งและคุชิคัตสึ” ร้านอาหารยอดฮิตสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศสไตล์อิซากายะของญี่ปุ่น

สามารถรับประทานฮิเมจิโอเด้งได้ที่ “ร้านฮิเมจิโอเด้งและคุชิคัตสึ” ร้านอิซากายะแห่งนี้ตั้งอยู่มุมหนึ่งของซอยฮิเมจิโนเรนไก (Himeji Noren Street) แหล่งร้านอาหารยอดฮิตใกล้กับสถานีฮิเมจิ
ฮิเมจิโอเด้งของร้านนี้ปรุงรสด้วยน้ำซุปดาชิรสอ่อนๆ ที่เข้ากันอย่างดีเมื่อรับประทานกับซอสโชยุขิงสดรสชาติเข้มข้น
เมื่อเติมมิรินและชิโระดาชิลงในซอสโชยุขิงสดจะทำให้ได้รสชาติที่นุ่มนวล รับประทานได้ไม่เบื่อเลย

อย่างไรก็ตาม การที่จะใช้ชื่อว่าฮิเมจิโอเด้ง ต้องได้รับการรับรองจากสหกรณ์ฮิเมจิโอเด้ง ซึ่งตรวจสอบการรับรองได้จากการมีบุกรูปปราสาทฮิเมจิ

หากอยากสั่งอาหารเมนูอื่นๆ นอกจากโอเด้ง ขอแนะนำเมนูยอดฮิตฮิเน-ปอง (Hinepon) หนึ่งในอาหารท้องถิ่นรสเลิศของฮิเมจิ รสอูมามิของเนื้อแม่ไก่ฮิเนะโดริ (แม่ไก่ที่ไม่วางไข่แล้ว) ​​ที่ยิ่งเคี้ยวยิ่งมีรสชาติเข้ากันกับความเปรี้ยวของซอสพอนซึได้ดี

4. เพลิดเพลินกับอานาโกะ (ปลาไหลทะเล) อาหารขึ้นชื่อของฮิเมจิในมื้อกลางวันที่ร้านปลาไหลทะเล Hiiragi (ฮิอิรากิ)

ปลาไหลทะเลของฮิเมจิ

ทะเลรอบฮิเมจิซึ่งเรียกกันว่า ฮาริมานาดะ คือขุมสมบัติของอาหารทะเลที่สดและอร่อย ว่ากันว่า เพราะทะเลที่นี่ตื้นและเป็นทราย เหมาะเป็นแหล่งอาศัยของปลาไหลทะเล สมัยก่อนที่นี่จึงจับปลาไหลทะเลได้มาก
แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ปริมาณปลาที่จับได้ลดลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ปลาไหลทะเลของฮิเมจิจึงกลายเป็นอาหารสุดหรูที่หายาก

ขอแนะนำ Hiiragi ร้านอาหารปลาไหลทะเลที่ใช้ซอสสูตรลับเพื่อดึงรสชาติอูมามิออกมา

Hiiragi ร้านอาหารปลาไหลทะเลซึ่งมี 2 สาขาในเมืองฮิเมจิ เป็นร้านอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับเมนูปลาไหลทะเลที่ปรุงด้วยวิธีต่างๆ
โดยเฉพาสาขาคิวเวลฮิเมจิ (QWell Himeji) ซึ่งเดินจากสถานีฮิเมจิเพียง 1 นาที เดินทางจากสถานีมาได้ง่ายมากๆ

ขอแนะนำ Hiiragi Gozen (2,530 เยน) ซึ่งมีเฉพาะมื้อกลางวันเท่านั้น ประกอบด้วย ข้าวหน้าปลาไหลทะเล ปลาไหลทะเลย่าง เทมปุระปลาไหลทะเล และซาชิมิปลาไหลทะเล

พ่อครัวที่เชี่ยวชาญจะเตรียมอาหารแต่ละจานด้วยมืออย่างประณีต ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อปลาไหลทะเลหนาๆ นุ่มๆ ในทุกจาน
โดยเฉพาปลาไหลทะเลย่างที่รสชาติความอร่อยโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยซอสรสหวาน ซอสนี้เป็นสูตรลับที่ ทางร้าน Hiiragi ได้ทำการวิจัยขึ้น
ซาซิมิปลาไหลทะเลเป็นอาหารอีกจานที่หาได้เฉพาะที่ร้านจําหน่ายปลาไหลทะเลสดๆ ที่ Hiiragi ไม่ได้มีแค่ปลาไหลทะเลของฮิเมจิเท่านั้น แต่ยังมีปลาไหลทะเลจากทั่วญี่ปุ่นด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานปลาไหลอร่อยได้ตลอดทั้งปี
ในเมืองฮิเมจิมีร้านอาหารอื่นๆ เช่น iccyoura (อิโจระ) ที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารจากปลาไหลทะเลและสาเกท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารซูชิสายพาน Rikimaru ที่สามารถเพลิดเพลินกับซูชิปลาไหลทะเลย่างและซูชิโดยใช้ปลาไหลทะเลต้มช้นใหญ่

* เวลาให้บริการของร้าน Hiiragi กลางวัน 11:00 – 14:00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 13:30 น.) และกลางคืน 17:00 – 22:00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 21:00 น.) โปรดระวัง ทางร้านไม่เปิดให้บริการระหว่างเวลา 14:00 – 17:00 น.

5. จิกามาดอกรับประทานได้ที่ยามาซะ คามาโบโกะ สาขาโอเตมาเอะ (Yamasa Kamaboko, Otemae)

จิกามาดอก (Chiikama Dog)

จิกามาดอก (ฮอทดอกคามาโบโกะไส้ชีส) เป็นอาหารรสเลิศไม่เหมือนใครที่หน้าตาดูเหมือนฮอทดอก แต่จริงๆ ใช้คามาโบโกะไส้ชีสแทนไส้กรอก
คามาโบโกะไส้ชีสเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ปรับปรุงให้ทันสมัย โดยนำคามาโบโกะซึ่งเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมทำจากเนื้อปลาบดมาสอดไส้ชีส
แป้งของฮอทดอกเนื้อฟูนุ่มหวานเล็กน้อยเข้ากับคามาโบโกะไส้ชีสรสเค็มอย่างลงตัว เมื่อรับประทานร้อนๆ ตอนทอดเสร็จใหม่ๆ จะติดใจในความอร่อยอย่างแน่นอน

สามารถซื้อจิกามาดอกของ Yamasa Kamaboko ร้านเก่าแก่กว่า 100 ปี ได้ที่สาขาโอเตมาเอะ

จิกามาดอก (150 เยน) จำหน่ายโดย Yamasa Kamaboko Co., Ltd. ร้านคามาโบโกะในฮิเมจิที่เปิดมานานกว่า 100 ปี
จิกามาดอกเป็นสินค้าใหม่ที่พัฒนาขึ้นในโอกาสเปิดร้าน Yamasa Kamaboko สาขาโอเตมาเอะเมื่อปี 2006 นันแต่นั้นมาก็กลายเป็นอาหารท้องถิ่นรสเลิศที่คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ

Yamasa Kamaboko สาขาโอเตมาเอะซึ่งขายจิกามาดอก ตั้งอยู่บนถนนโอเตมาเอะที่ทอดยาวตรงจากสถานีฮิเมจิไปถึงปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ภายนอกร้านดูสะดุดตาด้วยผนังสีขาวแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและหลังคากระเบื้องซึ่งเข้ากับเมืองรอบปราสาทแห่งนี้มาก

คามาโบโกะที่ทอดสดใหม่จะวางเรียงรายอยู่ในตู้โชว์ภายในร้าน

ไปเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นรสเลิศที่เดินทางจากปราสาทฮิเมจิมาง่ายๆ กัน

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับอาหารท้องถิ่นรสเลิศที่มีเอกลักษณ์ของฮิเมจิที่แนะนำกันไป
ครั้งนี้แนะนำเฉพาะร้านที่อยู่ใกล้กับปราสาทฮิเมจิและสถานีฮิเมจิเท่านั้นนะ ไปลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยของฮิเมจิและเพลิดเพลินกับการเที่ยวฮิเมจิให้เต็มอิ่มกัน

* เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ

ดูบทความพิเศษและโปรแกรมตัวอย่างอีก

บทความยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง