7 เสน่ห์ของหมู่เกาะอิเอชิมะในฮิเมจิ ไปดูชีวิตผู้คนในหมู่บ้านชาวประมงและตามรอยน้องแมวกัน

หมู่เกาะอิเอชิมะในฮิเมจิเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสและเสน่ห์ที่เรียบง่ายในชีวิตประจำวัน

เมืองฮิเมจิ (Himeji) ในจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) เป็นที่รู้จักกันจากปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ซึ่งเป็นมรดกโลก ในน่านน้ำของเมืองนี้มีหมู่เกาะอิเอชิมะ (Ieshima Islands) ซึ่งประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากกว่า 40 เกาะ เช่น เกาะอิเอชิมะ (Ieshima) และเกาะโบเซจิมะ (Bozejima)

เสน่ห์ของหมู่เกาะอิเอชิมะไม่ได้มีแค่อาหารทะเลแสนอร่อย แต่ยังมีทิวทัศน์ชีวิตประจำวันอันเรียบง่ายที่ไม่พบในแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปอีกด้วย บทความนี้ขอแนะนำสถานที่เที่ยวในหมู่เกาะอิเอชิมะแห่งนี้

ไปสำรวจเกาะที่ห่างไกล เริ่มจากฮิเมจิกัน

หมู่เกาะอิเอชิมะในทะเลในเซโตะ (Seto Inland Sea) เป็นเกาะห่างไกลที่ยังคงบรรยากาศชนบทที่เรียบง่าย แต่เดินทางมาได้ง่ายๆ สบายเกินคาด

จากสถานีฮิเมจิ (Himeji) ชานชาลา 1 ทางออกทิศเหนือ ให้ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังท่าเรือฮิเมจิ (Himeji Port) ราว 20 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นเรือความเร็วสูง (High Speed Boat)

เมื่อนั่งรถบัสมาถึงท่าเรือฮิเมจิ ก็จะเห็นสถานที่จำหน่ายตั๋วที่อยู่ติดกัน มีการแบ่งเรือโดยสารเป็นเรือที่มุ่งหน้าไปยังเกาะโชโดชิมะ (Shodoshima), ท่าเรือมาอุระ (Maura Port) บนเกาะอิเอชิมะ และเกาะโบเซจิมะ ป้ายสีน้ำเงินของบริษัทโคโซคุอิเอชิมะ (Kousoku Ieshima Co., Ltd.) หรือบริษัททาคาฟุคุไลเนอร์ (Takafuku Liner Co., Ltd.) เป็นจุดสังเกตสำหรับจุดจำหน่ายตั๋วเรือโดยสารที่มุ่งหน้าไปท่าเรือมาอุระ (Maura Port) บนเกาะอิเอชิมะ

ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 1,000 เยน ออกราวทุก 1 ชั่วโมง หลัง 20:00 น. ก็ยังให้บริการอยู่

เรือลำไม่ใหญ่มาก ให้บริการระหว่างท่าเรือฮิเมจิกับเกาะอิเอชิมะนี้ มีที่นั่งในร่มจึงเหมาะกับการเดิ

ท่าเรือฮิเมจิ

เกาะอิเอชิมะที่สามารถสัมผัสชีวิตผู้คนในหมู่บ้านชาวประมงที่ไม่พบในแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป

คนส่วนใหญ่มักกล่าวกันว่า เกาะอิเอชิมะเป็น “สถานที่นึกถึงก็อยากกลับมา” บนเกาะนี้มีการประมงเป็นอุตสาหกรรมหลักมาตั้งแต่อดีต และมีบ้านเรือนตั้งอยู่หนาแน่นตามแนวภูเขา ประกอบกับมีทะเลในเซโตะอันเงียบสงบ จึงทำให้เกิดทิวทัศน์ที่ทำให้หวนคิดถึงอดีต

จากนี้ ขอแนะนำ 7 เสน่ห์ของเกาะอิเอชิมะให้ทราบกัน

1. Ieshima Port Fureai Plaza ที่สามารถเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบเกาะพร้อมสัมผัสลมทะเลได้

หลังจากขึ้นฝั่งที่ท่าเรือมาอุระ (Maura Port) สถานที่แรกที่อยากให้ไปคืออิเอชิมะพอร์ตฟุเรอิพลาซ่า (Ieshima Port Fureai Plaza) ที่มองเห็นอยู่เบื้องหน้า

ที่นี่ให้บริการข้อมูลท่องเที่ยวในเกาะอิเอชิมะ มีข้อมูลภาษาอังกฤษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย กรณีมีสัมภาระเยอะ สามารถฝากไว้ที่นี่ได้ (ราคารวมภาษี 100 เยน)

ขอแนะนำให้เช่าจักรยานปั่นไปรอบๆ เกาะเพื่อรับลมทะเล เรียกได้ว่านี่คือความสุขของการเที่ยวเกาะห่างไกลอย่างแท้จริง

ที่ Fureai Plaza สามารถเช่าจักรยานธรรมดาและจักรยานไฟฟ้าได้ รถจักรยานไฟฟ้ามีค่าประกัน 2,500 เยน ค่าเช่า 1 ชั่วโมง 1,000 เยน / ไม่เกิน 3 ชั่วโมง 1,200 เยน / ไม่เกิน 5 ชั่วโมง 1,500 เยน และหากเกิน 1 ชั่วโมงคิดเพิ่มอีก 100 เยน

เกาะอิเอชิมะมีทางลาดหลายแห่ง ดังนั้นหากไม่มั่นใจในกำลังขา ขอแนะนำให้เช่ารถจักรยานไฟฟ้าจะปั่นง่ายกว่า

ส่วนจักรยานธรรมดาค่าเช่าวันละ 600 เยน กรุณาคืนจักรยานไฟฟ้าและจักรยานธรรมดาภายในเวลา 16:00 น. ของวันเดียวกัน

ที่ Fureai Plaza สามารถซื้อของฝาก เช่น โซยุของเกาะอิเอชิมะ เกลือทะเลธรรมชาติ และขนมเซมเบ้ ไปลิ้มลองรสชาติอันมั่นคั่งของเกาะอิเอชิมะร่วมกับครอบครัวและเพื่อนๆ กัน

ของฝากที่อยากแนะนำเป็นพิเศษคือ “สาหร่ายอิเอชิมะโนริ” เป็นผลิตภัณฑ์ที่เบาและสะดวกกับการถือในระหว่างเดินทาง

การทำสาหร่ายโนริโดยทั่วไปจะล้างสาหร่ายที่เก็บมาในน้ำทะเลผสมน้ำจืด ส่วนกรณีของสาหร่ายอิเอชิมะโนริ บริษัทนากามุระซุยซัง (Nakamura Suisan Co., Ltd.) บริษัทผู้ผลิตได้คิดค้นวิธีการล้างสาหร่ายหลายๆ ครั้งด้วยน้ำจืดเพื่อขจัดเกลือและสิ่งสกปรก ทำให้สาหร่ายยังคงสีและรสชาติที่เข้มข้น

2. กิจกรรมพายเรือแคนู

นอกจากเกาะอิเอชิมะจะมีทิวทัศน์ที่เรียบง่ายแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลที่สดและอร่อยสุดๆ ได้

อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับมนต์เสน่ห์แห่งท้องทะเลได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยการพายเรือแคนูด้วย

3. ตามดูน้องแมวในตรอกเล็กๆ กัน

เบื้องหน้ามีทิวทัศน์ทะเลอันกว้างใหญ่ที่แผ่กว้าง ส่วนบนเกาะอิเอชิมะมีตรอกซอกซอยแคบๆ เช่นนี้ที่จะกระตุ้นจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยในตัวเรา

บนเกาะอิเอชิมะ มีบ้านเรือนตั้งเรียงติดกัน รวมทั้งทางลาดและถนนคดเคี้ยวมากมาย

เมื่อย่างก้าวเข้าไป อาจเจอน้องแมวเจ้าถิ่นที่คอยเฝ้าปกป้องชีวิตของผู้คนบนเกาะที่เงียบสงบแห่งนี้ แม้สายตาดูง่วง แต่ก็มีออร่าที่ยากจะเข้าไปกวนน้องแมวได้ง่ายๆ นะ

4. “ดงกาเม็ซซัง” หินเต่ายักษ์ คล้ายกับฮาจิโกะในชิบูย่า

ใกล้ Ieshima Port Fureai Plaza มี “ดงกาเม็ซซัง” หินยักษ์รูปเต่า

มีตำนานเกี่ยวกับก้อนหินยักษ์ใหญ่นี้เล่าว่า นานมาแล้ว มีเต่าทะเลตัวใหญ่ตัวหนึ่ง เฝ้ารอเจ้านายกลับมา จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จึงกลายเป็นหิน และยังมีเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ถ้าลูบหัวเต่าหินก้อนใหญ่นี้ 100 ครั้ง คำอธิษฐานของเราจะเป็นจริง

ผู้คนบนเกาะอิเอชิมะบูชาเต่าทะเลที่รอการกลับมาของเจ้านายตัวนี้ในฐานะเทพเจ้าแห่งท้องทะเล และอธิษฐานถึงความปลอดภัยในท้องทะเล

5. ศาลเจ้าอิเอชิมะ สถานที่รับพลังเสริมดวงที่โอบล้อมด้วยภูเขาและทะเล

ศาลเจ้าอิเอชิมะ (Ieshima Shrine) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ล้อมรอบด้วยป่า

ตามตำนานกล่าวว่า ตอนที่จักรพรรดิจิมมุ จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นกำลังมุ่งหน้าไปสู้รบทางตะวันออก แล้วเจอกับพายุเข้า จึงหลบพายุไปยังเกาะอิเอชิมะในปัจจุบัน ว่ากันว่าจักรพรรดิจิมมุทรงชื่นชมความเงียบสงบของเกาะแห่งนี้จนตรัสว่า “เหมือนอยู่บ้าน” ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าว่ากันว่า นี่คือที่มาของชื่อเกาะอิเอชิมะในปัจจุบัน

เมื่อมองผ่านเสาโทริอิจากภายในศาลเจ้าอิเอชิมะ จะมองเห็นเวิ้งอ่าวของเกาะอิเอชิมะอยู่ภายในเสาโทริอิ ทำให้รู้สึกได้ว่าศาลเจ้าอายุ 2,000 ปีแห่งนี้กำลังเฝ้าปกป้องผู้คนที่นี่อยู่อย่างเงียบๆ

นอกจากนี้ หากไปที่สวนชิมิซุ (Shimizu Park) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน สามารถชมทิวทัศน์คันคันโจโบ (Kankan Chobo) ซึ่งเป็น 1 ใน “10 ทิวทัศน์สวยงามบนเกาะอิเอชิมะ” ที่นี่เคยเป็นสถานที่ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงปลายสมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) ใช้เฝ้าระวังความปลอดภัย ปัจจุบันเป็นสถานที่ชมทิวทัศน์อันสวยงาม

ศาลเจ้าอิเอชิมะ

6. Cafe Scott คาเฟ่ที่มองเห็นทะเล

อาคาร 2 ชั้นที่มีหลังคาผ้าใบสีเหลืองตั้งอยู่ห่างจาก Ieshima Port Fureai Plaza ไม่ถึง 30 วินาทีนี้คือ Cafe Scott (คาเฟ่สก็อต) ศูนย์แห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้คนในท้องถิ่น

คุณนาคานิชิ คาซุยะ จาก Ieshima Concierge กลุ่มไกด์นำเที่ยวเกาะอิเอชิมะเป็นผู้ดูแลคาเฟ่แห่งนี้ เป็นการนำคาเฟ่เก่าแก่ซึ่งเคยปิดไปมาปรับปรุงแล้วเปิดให้บริการอีกครั้ง ด้วยความร่วมมือของอาสาสมัครจากทั้งในและนอกเกาะ สร้างสภาพแวดล้อมที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารได้ง่ายๆ สบายๆ

เมนูต่างๆ ล้วนปรุงจากวัตถุดิบในเกาะอิเอชิมะอย่างไคเซ็นด้ง (ข้าวหน้าทะเล) สีสันสดใสตามภาพด้านบน

อาหารทะเลสดๆ เนื้อสัมผัสดี เมื่อรับประทานโดยราดด้วยโชยุวาซาบิและเกลือธรรมชาติที่ผลิตในเกาะอิเอชิมะ จะสัมผัสได้ถึงความหวานตามธรรมชาติของวัตถุดิบ ซึ่งเข้ากับข้าวสวยนุ่มๆ มาก

เกาะอิเอชิมะสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านชาวประมง แต่ในทางกลับกันก็มีปัญหาตรงที่มีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจไม่มากนัก

นอกจากบริหาร Cafe Scott แล้ว คุณนาคานิชิยังจัดทำเมนูบางส่วนเป็นข้าวกล่องให้พกไปรับประทานในที่ต่างๆ ในวันที่อากาศด้วย

ไปลองลิ้มรสของหวานบนเคาน์เตอร์ที่มองเห็นเกาะมาอุระ หรือบนโซฟาข้างผลงานศิลปะที่ศิลปินวาดกัน

เกาะอิเอชิมะยังมีแหล่งจับสัตว์น้ำที่ยอดเยี่ยม ที่นี่จึงเป็นเหมือนสวรรค์ของคนรักการตกปลา สำหรับผู้ที่สนใจในการตกปลา Cafe Scott ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับร้านให้เช่าอุปกรณ์ตกปลาด้วย

7. Ryori Ryokan OKABE ร้านอาหารเลิศรสที่ได้รับการแนะนำในหนังสือมิชลินไกด์

เกาะอิเอชิมะเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เรียบง่าย แต่มีทิวทัศน์ในตอนเช้าและตอนเย็นที่สวยงามต่างจากในตอนกลางวัน

มีที่พักหลายแห่งในเกาะอิเอชิมะ แต่ที่ Ryori Ryokan OKABE (ร้านอาหารและเรียวกัง โอคาเบะ) ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเรือมาอุระ มีจาโคนาเบะเป็นเมนูเลิศรสสุดพิเศษ ที่มีผู้คนจากจังหวัดอื่นมากมายต่างมาลิ้มลองกัน และยังเป็นอาหารแนะนำใน MICHELIN GUIDE BOOK Hyogo 2016 Special Edition Japanese ด้วย

แอบกระซิบว่า….

ถึงจะมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ ก็สามารถเพลิดเพลินกับจาโคนาเบะได้นะ แต่หากเลือกแพ็กเกจที่พักจะสามารถเพลิดเพลินกับจาโคนาเบะเวอร์ชันอัปเกรดในมื้อค่ำ เป็นอาหารสุดหรูพร้อมเท็มปุระ ซาชิมิ และอื่นๆ

จาโคนาเบะเป็นเมนูที่รวมเอาความเลิศรสของอาหารทะเลในเกาะอิเอชิมะไว้ ซึ่งจะใช้อาหารทะเลที่ต่างกันไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะปลาโบเซะซาบะซึ่งเป็นของท้องถิ่นชื่อดังในละแวกเกาะอิเอชิมะที่สามารถรับประทานได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม

เมื่อรับประทานปลาโบเซะซาบะแบบดิบ สามารถลิ้มรสเนื้อสัมผัสที่สดใหม่และนุ่มเด้งได้ แต่เมื่อเอาน้ำมันส่วนเกินออกแล้วใส่ลงในหม้อซุปดาชิ ความหวานจะถูกล็อคไว้ในเนื้อปลา ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่ต่างออกไปได้

นอกจากนี้ ขอแนะนำให้รับประทานปลาโบเซะซาบะกับโชกะโชยุ (ซีอิ๊วขิง) แบบเดียวกับฮิเมจิโอเด้งซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองฮิเมจิ หรือรับประทากับซอสพอนซึโฮมเมดของ Ryori Ryokan OKABE

Ryori Ryokan OKABE เป็นอาคาร 4 ชั้น แต่ละชั้นมีห้องพักพร้อมห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตัวไม่ต้องใช้ร่วมกับแขกคนอื่นๆ ราคาห้องพักรวมอาหารเช้าและอาหารเย็นจะต่างกันไปตามจำนวนผู้เข้าพัก กรุณาโทรสำรองที่นั่งที่ 079-325-0340

หน้าต่างของห้องพักหันหน้าไปทางท่าเรือมาอุระ สามารถชมภาพที่มีชีวิตชีวาต่างๆ บนเกาะอิเอชิมะในแต่ละช่วงเวลาของวัน เช่น แสงไฟของเรือหาปลาในยามค่ำคืน และตลาดปลาริมทางในยามเช้า

เกาะโบเซจิมะ จุดหมายต่อไปในหมู่เกาะอิเอชิมะ

หากต้องการตระเวนเที่ยวรอบหมู่เกาะอิเอชิมะเพิ่ม ขอแนะนำเกาะโบเซจิมะ โดยนั่งเรือมุ่งหน้าจากท่าเรืออาเดะ (Ade Port) บนเกาะอิเอชิมะมาที่นี่ พื้นที่นั่งรอของที่นี่ได้รับการตกแต่งเหมือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะ

เกาะโบเซจิมะมีบ้านเรือนตั้งเรียงรายตามทางลาดของภูเขาเช่นเดียวกับเกาะอิเอชิมะ ทำให้พื้นที่นี้มีทิวทัศน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

เกาะโบเซจิมะเป็นเกาะที่เล็กที่สุดในหมู่เกาะอิเอชิมะ แต่มีประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากเกาะอิเอชิมะซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด และมีจำนวนเรือประมงมากที่สุดในญี่ปุ่นด้วย

เกาะเบ็นเท็นจิมะ เกาะแห่งตำนานจินกน

จากเกาะโบเซจิมะ สามารถข้ามสะพานเพื่อไปยังศาลเจ้าไค (Kai Shrine) บนเกาะเบ็นเท็นจิมะ (Bentenjima) ที่มีตำนานอันน่าเศร้าอยู่

ว่ากันว่า นานมาแล้ว มีชาวประมงคนหนึ่งออกไปจับปลากับลูกสาวแล้วเจอพายุเข้า ในตอนนั้นลูกสาวได้กระโดดลงทะเลและอธิษฐานให้พายุสงบ เมื่อฝนและลมหยุดลง หมอกจากทะเลก็ปกคลุม จากนั้นลูกสาวก็กลายเป็นหินก้อนใหญ่

เรื่องนี้มีชื่อว่า ตำนานจินกน (ตำนานพลังเทพ) ลูกสาวผู้กตัญญูนี้ได้รับการบูชาในฐานะเบ็นไซเท็นและให้การปกป้องชาวประมงสืบต่อมาหลายชั่วอายุคน จากศาลเจ้าแห่งนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะโบเซจิมะได้

บทส่งท้าย

หมู่เกาะอิเอชิมะไม่ได้มีบรรยากาศของการเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่มีกระแสเวลาที่ต่างจากเมืองใหญ่

เมื่อเราได้รับการโอบล้อมด้วยไออุ่นของลมทะเลและแสงแดดบนเกาะอิเอชิมะที่มีทิวทัศน์หมู่บ้านชาวประมงอันเรียบง่ายนี้ จะทำให้รู้สึกสบายเหมือนกลับมาบ้านอย่างแน่นอน

 

 

Written by Lin

Sponsored by Himeji Convention & Visitors Bureau

*เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ